Qnature Lecithin 1200mg. 30 Softgels.

คิวเนเจอร์ เลซิติน 1000มก.

ลดระดับไขมันในเลือด เพิ่มการทำงานของระบบสมอง ช่วยซ่อมแซมตับที่ถูกทำลายการการดื่มแอลกอฮอล์
เลซิทิน (Lecithin) คือ สารธรรมชาติที่เกิดจากการรวมตัวของกลีเซอรอล กรดไขมัน และกรดฟอสฟอริก มีคุณสมบัติที่จะคอยดักจับ ไขมันในกระแสเลือด เลซินทินจัดเป็นสารสำคัญที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบ และดีต่อ “สมองและระบบประสาท” เป็นอย่างมาก เลซิติน เป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างโคลีน ซึ่งเซลล์ประสาทจะนำไปใช้สังเคราะห์เป็น ‘อะซิติลโคลีน’ (Acetylcholine) สารนี้ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์ประสาท ช่วยในการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมอง และระหว่างสมองกับการสั่งงานไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย อีกทั้งยังมีผลต่อการเสริมสร้างความจำและลดอาการหลงลืม

  หากอยากได้รับเลซิทินก็ต้องเลือกรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งสะสม พบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ตับ และบริเวอร์ยีสต์ (ยีสต์ที่เพาะไว้เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมโดยเฉพาะ) แต่น่าเสียดายที่การปรุงอาหารด้วยกรรมวิธีต่างๆ ที่ผ่านความร้อน เช่น ทอด ย่าง ต้ม อาจทำให้เลซิทินถูกทำลายไปมาก ดังนั้น หากต้องได้รับเลซิทินในปริมาณที่เพียงพอต่อการบำรุง สมอง จึงแนะนำให้กินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเลซิทินที่สกัดจากธรรมชาติเพิ่มเติม

Lecithin (เลซิติน) เป็นสารประกอบระหว่างกรดไขมันจำเป็น ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 2 ตัว ได้แก่ โคลีน(Choline)  และอินอสซิตอล (Inositol) ซึ่งเลซิตินจำเป็นต่อการควบคุมขบวนการต่าง ๆ ภายในเซลล์ให้ดำเนินไปอย่างประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วเราได้รับเลซิตินจากอาหารทั่วไปอยู่แล้ว แต่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกา

เลซิทินมีสารที่สำคัญคือ ฟอสฟาทิดิล โคลีน (phosphatidyl choline) ช่วยหลอดเลือดแข็งตัว กันโรคหลอดเลือดหัวใจ เพิ่มการทำงานของระบบสมอง ช่วยซ่อมแซมตับที่ถูกทำลายการการดื่มแอลกอฮอล์ ที่ผ่านมาเราอาจจะรู้จักเลซิตินในนามของสารดูแลสมอง ช่วยเสริมสร้างความจำ ป้องกันสมองเสื่อม แต่ใครจะรู้ว่ามีอีกฤทธิ์ที่ให้ประโยนช์ต่อร่างกายไม่แพ้กัน คือช่วยป้องกันเราจากโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุการตายของคนไทยลำดับต้นๆเลยทีเดียว
 
เลซิติน หาได้จากที่ไหนบ้าง?
เราสามารถพบเลซิทินได้จากแหล่งอาหารจำพวก ไข่แดง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน ตับ แต่น่าเสียดายที่เมื่ออาหารเหล่านี้ผ่านความร้อน ผ่านการนำไปปรุงอาหาร สารเลซิทินจะลดระดับลง 

● เลซิติน (Lecithin) พบได้ตามธรรมชาติจาก 2 แหล่ง ที่สำคัญคือ ร่างกายมนุษย์ สามารถผลิต ‘เลซิติน’ ขึ้นได้เองที่ ‘ตับ’ สารตั้งต้นที่ร่างกายใช้ผลิตเลซิติน เช่น กรดไขมันจำเป็น วิตามินบี และสารอาหารสำคัญอื่นๆ หากร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ เหล่านี้ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายขาดเลซิตินได้ แหล่งธรรมชาติสามารถพบเลซิติน ได้ทั้งในพืชและสัตว์ โดยจะพบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง จมูกข้าวสาลี เป็นต้น แต่อาหารเหล่านี้ก็จะให้ไขมันโคเลสเตอรอลสูงตามไปด้วย

● การทานเลซิติน (Lecithin) เสริมจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเลซิตินมักจะสกัดได้จากไข่แดงและถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองจะเป็นแหล่งที่ดีในการสกัดเลซิติน เพราะไม่มีไขมันโคเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากกว่า โดยร่างกายของเราต้องการเลซิตินวันละ 6 กรัม ส่วน Choline ต้องการวันละ 0.6-1 กรัม ซึ่งในอดีตไม่ค่อยพบว่ามีการขาดสารเลซิติน แต่ปัจจุบันคนนิยมทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จึงอาจจะทำให้เกิดการขาดสารเลซิตินได้

 
เลซิตินช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดคือการมีระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งเลซิตินช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ก็เท่ากับว่าลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้นั่นเอง โดยเลซิตินจะไปลดการดูดซึมของไขมันในทางเดินอาหาร  ลดการดูดกลับของน้ำดี ทำให้ร่างกายต้องใช้ไขมันในการสร้างน้ำดีมากขึ้น เพิ่มการนำไขมันมาใช้ ระดับไขมันในเลือดก็จะลดต่ำลงค่ะ 
 
ขนาดที่แนะนำในเพื่อให้ได้ฤทธิ์ไขมันในเลือดคือการใช้เลซิทิน 1200 mg ก่อนอาหารในแต่ละมื้อ
 

Softgels ชนิดพิเศษ ออกฤทธิ์เร็วภายใน 5 นาที 

 สกัดจากถั่วเหลืองธรรมชาติ

 ช่วยในการบำรุง สมอง และป้องกันภาวะความผิดปกติของระบบประสาท

 ช่วยและป้องกัน“อัลไซเมอร์” ในระยะเริ่มต้นได้

 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันที่ตับ ช่วยเรื่องโรคไขมันพอกตับ

 
วิธีรับประทาน 
รับประทานครั้งละ 1 ซอฟท์เจล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
 
อย. 13-2-00763-2-0070

Qnature Lecithin 1200mg. 30 Softgels. คิวเนเจอร์ เลซิติน