Qnature Bilberry Extract 80mg. 30s.
คิวเนเจอร์ บิลเบอร์รี่ เอ็กซ์แทรค 80 มก. 30 เม็ด
ในบิลเบอร์รี่ มีสารสำคัญทีมี่ชื่อว่า “ แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ” ซึ่งเป็นสารลดอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สามารถเพิ่มการมองเห็นชัดได้ทั้งในคนและสัตว์ และเพิ่มการมองเห็นในที่มืดได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากช่วยในการฟื้นตัวของเซลล์รับแสง (Rhodopsin) ที่จอประสาทตา บิลเบอร์รี่ (Bilberry) เป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ มีลักษณะคล้ายบลูเบอร์รี่แต่มีขนาดเล็กกว่า แม้ว่าเบอร์รี่ชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและคนไทยอาจยังไม่คุ้นเท่าไร แต่ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพก็โดดเด่นไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นในตระกูลเดียวกัน ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ครอบคลุมสุขภาพหลายด้าน เช่น บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา และต้านการอักเสบที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลายโรค แต่บิลเบอร์รี่สดอาจหาได้ยากในประเทศไทย เพราะเป็นผลไม้ท้องถิ่นของยุโรปตอนเหนือ บิลเบอร์รี่ที่พบในไทยจึงมักมาในรูปแบบของอาหารเสริมมากกว่า โดยบทความนี้จะให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประโยชน์ของบิลเบอร์รี่และวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมบิลเบอร์รี่อย่างปลอดภัย
นานาประโยชน์ของ bilberry
● เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น (Improves visual function) : มีการศึกษาชัดเจนที่บ่งบอกว่าสาร anthocyanin จากบิลเบอร์รี่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพการมองเห็นในที่มืดได้ เนื่องจากช่วยซ่อมแซม rhodopsin หรือก็คือสารที่ช่วยดูดกลืนแสงของเซลล์รูปแท่งที่บริเวณจอประสาทตานั่นเอง และอีกกลไกหนึ่งคือบิลเบอร์รี่ช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ และการหมุนเวียนของหลอดเลือดฝอยบริเวณดวงตาได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันเซลล์ตาจากปฏิกิริยา Photo-oxidation ได้อีกด้วย
● สารลดอนุมูลอิสระ (Antioxidants) : Anthocyanosides ในบิลเบอร์รี่ มีฤทธิ์ลดอนุมูลอิสระโดยตรงต่ออนุมูลอิสระอย่าง Superoxide, ช่วยเร่งปฏิกิริยาลดอนุมูลอิสระภายในของร่างกาย และยังช่วยปกป้องเซลล์ (cytoprotective) จากปฏิกิริยาออกซิเดชันด้วย
● ปกป้องเซลล์ตับ (Hepatoprotective) : หลายๆงานวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าบิลเบอร์รี่ช่วยปกป้องไมโทคอนเดรียในเซลล์ตับจาก Oxidative stressได้ ส่งผลลดการเกิดพังผืดที่ตับ ที่เป็นสาเหตุของโรคตับแข็งได้
● ต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) : ทั้งการรับประทานบิลเบอร์รี่ สามารถลดการหลั่งสารเคมีที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการอักเสบในร่างกายได้ เช่น C-reactive protein, interleukin-6, interleukin-12 และ interferon-gammaได้ จึงช่วยต้านการอักเสบของหลอดเลือด และลดอาการบวมได้ จึงมีการนำมาใช้ร่วมกับการช่วยโรคริดสีดวง หรือเส้นเลือดขอด
● ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร (Gastroprotective activity) : มีการศึกษาที่พบว่า anthrocyanin ในบิลเบอร์รี่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเยื่อบุผิวทางเดินอาหาร จึงช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารจากความเครียด แอลกอฮอลล์ หรือยาบางชนิดได้
สารสำคัญในบิลเบอร์รี่ได้เเก่
● แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) สามารถ จับกับเซลล์บุผิว( pigmented epithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี โดยมีฤทธิ์ลดอนุมูลอิสระที่ดี (Anti-oxidant) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และคืนสภาพสาร rhodopsin ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี
● แทนนิน (Tannins) มีฤทธิ์ในการสมานแผล(Astingent) และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น พวกแบคทีเรียบางชนิด
● ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ลดอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เช่นกัน และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดที่สำคัญต่อมนุษย์
● กลูโคควินิน (Glucoquinine) เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
ความเสี่ยงจากการได้รับบิลเบอร์รี่
บิลเบอร์รี่สดสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าในประเทศไทยพบบิลเบอร์รี่ในรูปแบบอาหารเสริมมากกว่า โดยอาหารเสริมบิลเบอร์รี่ส่วนใหญ่มักอ้างสรรพคุณในการบำรุงสายตา ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นก็ชี้ว่าประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อการบำรุงสายตายังไม่มีข้อมูลยืนยันที่แน่ชัด แต่หากสนใจหรือต้องการใช้อาหารเสริมชนิดนี้ วิธีต่อไปนี้อาจช่วยให้เลือกและใช้อาหารเสริมบิลเบอร์รี่ได้ปลอดภัยขึ้น
● ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมทุกชนิดถึงประโยชน์ ความเสี่ยง และความจำเป็นในการใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก คนท้อง คุณแม่ที่กำลังให้นม ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่กำลังใช้ยาโรคเบาหวานและยาต้านการแข็งตัวของเลือด
● เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่น่าเชื่อถือ
● ใช้อาหารเสริมตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ หากมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้จัดจำหน่าย
แม้ว่าประโยชน์ของบิลเบอร์รี่จะน่าสนใจ แต่ก็ยังต้องการการศึกษาในแง่มุมอื่นอีกมาก รวมทั้งการได้รับอาหารเสริมในปริมาณที่มากกว่าปกติหรือได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงของผิดปกติได้ สำหรับคนท้อง ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการใช้บิลเบอร์รี่สกัดหรืออาหารเสริมบิลเบอร์รี่เพราะอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น และหากพบความผิดปกติหลังใช้อาหารเสริม ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์
อาการข้างเคียง : ไม่เกิดเลยหรือ เกิดขึ้นน้อยมาก จากการรวบรวมการศึกษาทั้งหมดมีประมาณ 4% ที่มีอาการทางผิวหนัง, ระบบประสาท และระบบทางเดินอาหาร
ขนาดการรับประทานที่แนะนำ
สารสกัดบิลเบอร์รี่ที่มีสาร anthocyanin 240-480 mg /day
วิธีรับประทาน
รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง พร้อมอาหาร
อย. 13-2-00763-2-0075